จากอดีตที่ผ่านมาเราติดต่อกันโดยใช้งานสัญญามอร์สในการสือสารระยะไกล หรือสมัยก่อนเราเรียกว่าจะโทรเลขจนพัฒนามาเป็นโทรศัพท์ที่มีสาย จนถึงยุคปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นโทรศัพท์ไร้สายส่งสัญญาณแบบ(Voice) มาสู่การส่งข้อมูล (DATA) แบบไร้สายผ่านสมาร์ทโฟน เมื่อทั้งเสียงและข้อมูลสามารถส่งแบบไร้สายได้แล้ว ทำไม่ตัวประจุไฟฟ้าจึงจะไม่สามารถส่งแบบไร้สายได้ ล่าสุดล่าสุดสิ่งที่ไอโฟนได้พัฒนาคือเรื่องของการชาร์จโทรศัพท์ ถ้าเป็นไอโฟนรุ่นก่อนๆ เรายังต้องใช้สายชาร์จอยู่ แต่ตอนนี้ไอโฟนแปดและไอโฟนสิบก็สามารถชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charging) ได้แล้ว

แต่ที่ต่างประเทศได้นำเทคโนโลยีไร้สายเข้าใช้ในงานคมนาคม แต่ในประเทศอังกฤษ ที่เมือง Milton Keynes นั้น เราสามารถชาร์จรถเมล์ไฟฟ้าแบบไร้สายได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก ทำให้ในเมืองไม่ต้องมีสายไฟฟ้ารกรุงรัง ไม่ต้องมีแท่นชาร์จไฟฟ้าตั้งขึ้นมาทั่วเมือง และที่เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ก็ใช้รถเมล์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟแบบไร้สายแล้ว

การชาร์จแบบไร้สายนี้ ใช้หลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction) เป็นหลักการพื้นฐาน อาศัยขดลวดสองชุด เมื่อมีกระแสไฟฟ้าจ่ายเข้าไปยังขดลวด จะเกิดการเหนี่ยวนำทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก เมื่อมีขดลวดอีกชุดหนึ่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกันจะถูกเหนี่ยวนำ ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าใหลผ่านขดลวดอีกหนึ่งเกิดพลังงานไฟฟ้าใหลผ่านได้

เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆที่สามารถชาร์จไฟโดยไม่ต้องใช้สายไฟแล้ว ทำไมเราจะไม่สามารถส่งไฟฟ้าแบบไร้สายได้ในระยะไกล  จึงเกิดการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดและพัฒนาสายส่งไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้สายส่ง หรือ Wireless Transmission ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตามเมื่อสายส่งไร้สายใช้งานได้แล้ว คงเห็นการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องของทัศนียภาพของเมืองที่เปลี่ยนไปที่ไม่ต้องมีสายไฟตามถนนทางเดิน ไม่จำเป็นต้องมีที่ชาร์จรถยนต์ข้างถนน หรืออาจจะทำให้แท่นชาร์จตามถนนมีสภาพเหมือนตู้โทรศัพท์สาธารณะที่จะไม่มีคนใช้งาน  ขณะเดียวกันความต้องการของทองแดงเพื่อมาทำสายไฟก็จะลดไป ลดการทำเหมืองที่ต้องใช้พลังงานและทรัพยากรมาก  เป็นส่วนทำให้โลกเราน่าอยู่สำหรับลูกหลานของเราต่อไป